【APSthai】THE World University Ranking 2024 ออกแล้ว มีมหาวิทยาลัยญี่ปุ่นแห่งไหนบ้าง [Study in Japan]
The Times Higher Education แถลงลำดับมหาวิทยาลัยโลกประจำ 2024 ปีออกแล้ว เรียกว่า THE World University Ranking 2024
อย่างที่รู้กันอย่างกว้างขวาง ลำดับมหาวิทยาลัยโลกเหล่านี้ได้จัดทำขึ้นเพื่อให้รู้ถึงคุณภาพของมหาวิทยาลัย โดยเฉพาะมหาวิทยาลัยที่อยู่ในประเทศใช้ภาษาอังกฤษ แต่แน่นอนว่ายังมีประโยชน์ไม่น้อยในกรณีที่จะรู้ว่ามหาวิทยาลัยในแต่ละที่มีจุดแข็งอะไรบ้าง
คราวนี้จะแนะนำมหาวิทยาลัยในญี่ปุ่น 3 มหาวิทยาลัยที่ติดลำดับสูงใน THE World University Ranking 2024 คร่าว ๆ
มหาวิทยาลัยโตเกียว (The University of Tokyo)
東京大学 หรือมหาวิทยาลัยโตเกียวอยู่ในลำดับที่ 29 ใน THE World University Ranking 2024 และอยู่ในลำดับที่ 1 ในมหาวิทยาลัยญี่ปุ่น ปกติคนญี่ปุ่นเรียกว่า “โทได” มหาวิทยาลัยตั้งอยู่ในกรุงโตเกียวและเป็นสถาบันวิจัยศูนย์กลางของประเทศญี่ปุ่น นับตั้งแต่ปี 1877
ดูคะแนนในแต่ละวิชา ม.โตเกียวได้คะแนน 70 ขึ้นไปในสาขาสายวิทยาศาสตร์ รองลงมาเป็นสาขาสายสังคมศาสตร์และครุศาสตร์ ซึ่งได้ประมาณ 60 คะแนน สายมนุษยศาสตร์และจิตวิทยาได้คะแนนประมาณ 50 คะแนน
มหาวิทยาลัยเกียวโต (Kyoto University)
京都大学 หรือมหาวิทยาลัยเกียวโตอยู่ในลำดับ 55 ใน THE World University Ranking 2024 และอยู่ในลำดับที่ 2 ในมหาวิทยาลัยญี่ปุ่น ปกติคนญี่ปุ่นเรียกว่า “เกียวได” มหาวิทยาลัยเกียวโตตั้งอยู่ในจังหวัด เป็นเมืองหลวงเก่าของญี่ปุ่น คุณภาพของ ม.เกียวโต จะไม่แพ้กับ ม. โตเกียว
ดูคะแนนแล้ว ได้คะแนน 60 ขึ้นไปในสาขาสายวิทยาศาสตร์ รองสายสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ที่ได้คัแนน 50 ขี้นไป ที่น่าสนใจก็คือ สายครุศาสตร์ได้คะแนน 63.3 ซึ่งได้คะแนนค่อนข้างสูงในพวกสาขาสายศิลป์
มหาวิทยาลัยโทโฮกุ (Tohoku University)
ในสุดท้าย ผมอยากแนะนำ 東北大学 หรือมหาวิทยาลัยโทโฮกุ ติดลำดับที่ 130 ใน THE World University Ranking 2024 และอยู่ในลำดับที่ 3 ในมหาวิทยาลัยญี่ปุ่น ปกติคนญี่ปุ่นเรียกว่า “โทโฮกุได” ถึงแม้ว่า ม.โทโฮกุไม่ได้อยู่ในลำดับที่สูงขนาด ม.โตเกียว หรือ ม.เกียวโต ยังมีลักษณะชัดเจนและกระแสในช่วงนี้
ม.โทโฮกุเป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกที่รับนักศึกษาผู้หญิงและนักศึกษาต่างชาติในมหาวิทยาลัยญี่ปุ่น ช่วงนี้ ม.โทโฮคุ แน้นการทำงานวิจัยเชิงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ปรับปรุงบริหารมหาวิทยาลัย และได้ทุนพิเศษจากรัฐ เท่ากับ 10 ล้านล้านเยน
ลักษณะต่าง ๆ ของมหาวิทยาลัยญี่ปุ่นที่อยู่ในลำดับสูงในโลก
ผมแนะนำมหาวิทยาลัยที่อยู่ในลำดับสูงตั้ง 3 แห่งมา ผมต้องรับบอกว่าลำดับมหาวิทยาลัยจะไม่ตัดสินคุณค่ามหาวิทยาลัยนั้น มีประโยชน์เป็นข้อมูลเป็นรองเท่านั้น
ในสุดท้าย ผมขออธิบายลักษณะต่าง ๆ ของมหาวิทยาลัยญี่ปุ่นเหล่านั้น ซึ่งเป็นทั้งจุดแข็งและจุดอ่อน
1. เน้นสายวิทย์มากกว่าสายศิลป์
อย่างที่ได้รู้จากคะแนนในแต่ละวิชา มหาวิทยาลัยในญี่ปุ่นแน้นสายวิทย์มากกว่าสายศิลป์ (หรืออย่างน้อยมองเห็นแบบนั้น) ผมคิดว่ามีเหตุผล 2 อย่าง
เหตุผลที่ 1 ก็คือ ผลงานวิจัยสายวิทย์อาจจะค้นหาประโยชน์ที่ส่งผลต่อด้านอุตสาหกรรมที่ทั้งเร็วและง่ายกว่างานวิจัยสายศิลป์
เหตุผลที่ 2 ก็คือรัฐบาลญี่ปุ่นให้งบประมาณสำหรับภาควิชาสายวิทย์มากกว่าสายศิลป์ ด้วยเหตุที่ได้กล่าวมา
ผมไม่ต้องการจะตัดสินว่านี่เป็นสิ่งที่ดีหรือร้ายในบทความนี้ แต่ก็เป็นเรื่องจริงในภาคอุดมศึกษาในประเทศญี่ปุ่น (หรือในประเทศพัฒนาแล้วส่วนใหญ่ก็ได้)
2. อัตราจำนวนนักศึกษาผู้หญิงและนักศึกษาต่างชาติน้อย
โดยภาพรวมทั่ว ๆ ไป อัตราจำนวนนักศึกษาผู้หญิงประมาณเท่ากับอัตรานักศึกษาผู้ชายในมหาวิทยาลัยญี่ปุ่น แต่พูดถึงมหาวิทยาลัยสหศึกษาที่อยู่ในลำดับสูง อัตราจำนวนนักศึกษาผู้หญิงค่อนข้างน้อย แน่นอนว่ามันเป็นจุดอ่อนของมหาวิทยาลัยหรือสังคมญี่ปุ่น ซึ่งต้องแก้ไขในเร็วนี้ ในเว็บไขต์ THE World University Ranking 2024 อัตราจำนวนนักศึกษาผู้หญิงต่อผู้ชาย (Student Ratio of Females to Males) 25:75 ใน ม.เกียวโต 28:72 ใน ม.โตโฮกุ ส่วน ม.โตเกียว ไม่มีข้อมูล แต่อาจจะเป็นประมาณ 20:80 ทุกปี
นอกจากนักศึกษาผู้หญิง นักศึกษาต่างชาติก็ยังค่อนข้างน้อยอยู่ ม.โตเกียว มี 15% ม.เกียวโต มี 10.7% และ ม.โตโฮกุ มี 12% เท่านั้น พิจารณาได้ว่ามีหลากหลายเหตุผล แต่เหตุผลที่ใหญ่ที่สุดอาจเป็น “ภาษา” ซึ่งผมขอยกเป็นเรื่องต่อไปนี้
3. สอนเป็นภาษาญี่ปุ่นเป็นหลัก
แน่นอนว่าในมหาวิทยาลัยญี่ปุ่นสอนเป็นภาษาญี่ปุ่นเป็นหลัก ช่วงนี้มหาวิทยาลัยญี่ปุ่นก็เปิดสาขาที่ได้ปริญญาเป็นภาษาอังกฤษเท่านั้นเพิ่มขึ้น แต่มหาวิทยาลัยญี่ปุ่นได้ทำงานวิจัยและสะสมผลงานเป็นภาษาญี่ปุ่นมามากว่า 150 ปี ซึ่งเป็นพื้นฐานของจุดแข็งในแวดวงวิชาการในปัจจุบันนี้
เพราะฉะนั้น ถ้าอยากได้สิ่งแวดล้อมที่ดี จำเป็นต้องได้ความสามารถด้านภาษาญี่ปุ่นที่เข้มแข็ง
หวังว่าผู้สนใจเข้ามาเรียนในมหาวิทยาลัยญี่ปุ่นตั้งใจจะเรียนตั้งภาษาอังกฤษและภาษาญี่ปุ่นนะครับ!